บริการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงโครงสร้างอาคาร
Structural Integrity & Non-Destructive Testing (NDT)
บริการตรวจวินิจฉัยสุขภาพอาคาร (Structural Health Monitoring) อย่างละเอียด ด้วยเครื่องมือทดสอบมาตรฐานสากล (ASTM/BS)
วิเคราะห์ผลโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อประเมินความปลอดภัยและวางแผนการซ่อมบำรุงได้อย่างแม่นยำ
1. การตรวจสอบสภาพโครงสร้างแบบไม่ทำลาย (Physical NDT Inspection)
การใช้คลื่นเสียงและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการสำรวจหาความผิดปกติภายในเนื้อคอนกรีต โดยไม่สร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้กับตัวอาคาร
🛠️ Rebound Hammer Test (Schmidt Hammer)
มาตรฐาน: ASTM C805 / BS 1881 Part 202
หลักการ: ทดสอบค่าความแข็งผิว (Surface Hardness) โดยการวัดค่าการสะท้อนกลับของมวลกระแทก เพื่อนำไปประเมินความสม่ำเสมอ (Uniformity) ของคุณภาพคอนกรีตในแต่ละพื้นที่ และประมาณค่ากำลังอัดเบื้องต้น (Estimated Compressive Strength)
- ใช้เปรียบเทียบคุณภาพคอนกรีตระหว่างจุดที่มีปัญหากับจุดปกติ
- เหมาะสำหรับการตรวจสอบพื้นที่วงกว้างอย่างรวดเร็ว (Screening)
🛠️ Ultrasonic Pulse Velocity (UPV)
มาตรฐาน: ASTM C597
หลักการ: ส่งคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic) ผ่านเนื้อคอนกรีตเพื่อวัดเวลาในการเดินทางของคลื่น (Transit Time) หากคลื่นเดินทางช้าผิดปกติ แสดงว่าเนื้อคอนกรีตมีความหนาแน่นต่ำ มีโพรงอากาศ (Honeycombs) หรือมีรอยร้าวขวางกั้น
- ตรวจสอบหารอยร้าวลึกภายใน (Internal Cracks) ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า
- ประเมินความสมบูรณ์ของเนื้อคอนกรีต (Quality Grading) ว่าอยู่ในเกณฑ์ ดีมาก, ดี, หรือ พอใช้
🛠️ Ferro Scan & Cover Meter Survey
มาตรฐาน: BS 1881 Part 204
หลักการ: ใช้หลักการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Pulse Induction) เพื่อระบุตำแหน่งและความลึกของเหล็กเสริมที่ฝังอยู่ภายในคอนกรีต
- ตรวจสอบความถูกต้อง: ตรวจสอบว่าผู้รับเหมาใส่เหล็กเสริมครบถ้วนและถูกต้องตามแบบก่อสร้างหรือไม่ (Verification)
- ความปลอดภัย: หาตำแหน่งเหล็กเพื่อหลีกเลี่ยงการเจาะโดนเหล็กโครงสร้างหลัก (Rebar Hit Prevention)
- ระยะหุ้ม (Covering): วัดความหนาคอนกรีตหุ้มเหล็ก เพื่อประเมินความทนทานต่อการเกิดสนิม
🛠️ Half-Cell Potential Test
มาตรฐาน: ASTM C876
หลักการ: วัดค่าความต่างศักย์ไฟฟ้า (Potential Difference) ระหว่างเหล็กเสริมในคอนกรีตกับแท่งอ้างอิงมาตรฐาน (Reference Electrode) เพื่อสร้างแผนที่ความเสี่ยงการเกิดสนิม (Corrosion Probability Map)
- วิเคราะห์หาบริเวณที่เหล็ก "เริ่มเป็นสนิม" แต่ยังไม่แสดงอาการคอนกรีตแตกร้าวให้เห็นภายนอก
- ช่วยในการวางแผนซ่อมบำรุงเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) ก่อนความเสียหายจะลุกลาม
2. การเจาะสำรวจและวิเคราะห์ทางเคมี (Destructive & Chemical Analysis)
✅ งานเจาะเก็บตัวอย่างคอนกรีต (Concrete Coring)
การเจาะเก็บตัวอย่างด้วยหัวเจาะเพชร (Diamond Bit) เพื่อนำชิ้นส่วนโครงสร้างจริงไปตรวจสอบ เป็นวิธีที่ให้ผลแม่นยำที่สุด (Most Reliable) โดยแบ่งวัตถุประสงค์ดังนี้:
เจาะเก็บตัวอย่างทรงกระบอกจาก เสา คาน หรือผนัง (ตามมาตรฐาน ASTM C42) เพื่อนำไปกดทดสอบหาค่ากำลังรับน้ำหนักจริงในห้องปฏิบัติการ ใช้ในกรณีที่ผล Rebound Hammer ต่ำกว่าเกณฑ์ หรือไม่มีข้อมูลแบบก่อสร้างเดิม
เจาะพื้นถนน (Pavement), ลานจอดรถ หรือพื้นโรงงาน เพื่อตรวจสอบว่าผู้รับเหมาเทคอนกรีตได้ความหนาตามสเปคหรือไม่ และดูลักษณะชั้นดินรองพื้นทาง
บริการเจาะเปิดช่องพื้น/ผนัง สำหรับเดินท่อประปา ไฟฟ้า หรือท่อดับเพลิง โดยทำงานร่วมกับการสแกนหาเหล็ก (Ferro Scan) เพื่อความปลอดภัยโครงสร้าง
🧪 การทดสอบความลึกคาร์บอเนชั่น (Carbonation Depth Test)
ตรวจสอบระดับความเป็นกรด-ด่าง (pH) ของคอนกรีต ปกติคอนกรีตมีความเป็นด่างสูง (pH 12-13) ซึ่งช่วยป้องกันสนิม แต่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศจะทำปฏิกิริยาให้ความเป็นด่างลดลง (Carbonation)
- ใช้สารละลาย Phenolphthalein ฉีดพ่นบนผิวคอนกรีตที่แตกใหม่ เพื่อวัดระยะลึกที่ความเป็นด่างสูญเสียไป
- ประโยชน์: ประเมินอายุการใช้งานที่เหลืออยู่ (Remaining Service Life) ว่าอีกกี่ปีเหล็กเสริมจะเริ่มเป็นสนิม
🧪 การทดสอบปริมาณคลอไรด์ (Chloride Content Analysis)
"เกลือคลอไรด์" คือศัตรูตัวร้ายของโครงสร้าง (โดยเฉพาะอาคารริมทะเล หรือโรงงานอาหาร) การทดสอบทำโดยการเก็บผงคอนกรีตที่ระยะความลึกต่างๆ ส่งวิเคราะห์ในห้องแล็บ
- วิเคราะห์หาปริมาณคลอไรด์สะสม เทียบกับค่าวิกฤต (Critical Threshold)
- หากเกินค่ามาตรฐาน เหล็กเสริมจะเกิดสนิมแบบขุม (Pitting Corrosion) ซึ่งอันตรายและรุนแรงกว่าสนิมทั่วไป
ต้องการที่ปรึกษาตรวจสอบอาคาร?
เราให้บริการครบวงจร: สำรวจหน้างาน > ทดสอบ NDT > วิเคราะห์ผล Lab > รายงานโดยวิศวกร
Email: Ridtirud@gmail.com