Structural Repair

service 1

บริการซ่อมแซมและเสริมกำลังโครงสร้าง

Structural Repair & Strengthening Services

วิเคราะห์สาเหตุความเสียหายอย่างละเอียด แก้ไขปัญหาได้ตรงจุดด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดำเนินการและควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานวิศวกรรมสากล เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน


สัญญาณเตือนภัย! อาคารของคุณกำลังมีปัญหาเหล่านี้หรือไม่?

  • ⚠️ รอยร้าววิกฤต (Structural Cracks): รอยร้าวที่เสา คาน หรือผนังที่มีลักษณะเฉียง 45 องศา หรือรอยร้าวแนวดิ่งที่กว้างเกิน 0.3 มม. ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการรับน้ำหนักเกินขีดจำกัด
  • ⚠️ คอนกรีตระเบิดและเหล็กเป็นสนิม (Spalling): ผิวคอนกรีตแตกหลุดร่อนออกมาจนเห็นเหล็กเสริมภายในที่เป็นสนิม เนื่องจากการเสื่อมสภาพหรือความชื้น
  • ⚠️ อาคารทรุดตัวหรือเอียง: สังเกตได้จากประตูหน้าต่างเริ่มปิดไม่สนิท พื้นมีความลาดเอียงผิดปกติ หรือมีรอยร้าวแยกระหว่างตัวอาคารกับส่วนต่อเติม
  • ⚠️ โครงสร้างรับน้ำหนักไม่เพียงพอ: มีแผนจะเปลี่ยนการใช้งานอาคาร (Change of Use) วางเครื่องจักรหนัก หรือต่อเติมชั้นเพิ่ม ซึ่งโครงสร้างเดิมอาจไม่ได้ออกแบบไว้รองรับ

โซลูชันทางวิศวกรรมของ Grow Cons

1. งานซ่อมรอยร้าวคอนกรีต (Epoxy & PU Injection)

กระบวนการซ่อมแซมเพื่อผสานเนื้อคอนกรีตให้กลับมามีความสมบูรณ์ (Monolithic Repair) โดยทีมงานจะทำการสำรวจความกว้างและความลึกของรอยร้าวเพื่อเลือกวัสดุที่เหมาะสม:

  • Epoxy Injection: การติดตั้งหัวอัด (Packer) และฉีดน้ำยา Epoxy Resin แรงดันสูงเข้าไปในรอยร้าว เพื่อประสานโครงสร้างให้แข็งแรงดังเดิม เหมาะสำหรับรอยร้าวที่แห้ง
  • Polyurethane (PU) Foam: สำหรับรอยร้าวที่มีน้ำรั่วซึม น้ำยาจะขยายตัวเมื่อโดนน้ำเพื่ออุดรอยรั่วทันที ช่วยหยุดน้ำและป้องกันเหล็กเสริมจากการกัดกร่อน

2. งานเสริมกำลังด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP Strengthening)

นวัตกรรมการเสริมกำลังโครงสร้างโดยไม่ต้องทุบทำลายและไม่เพิ่มน้ำหนักให้อาคาร ด้วยการติดตั้งแผ่น Carbon Fiber Reinforced Polymer (CFRP) ที่มีคุณสมบัติรับแรงดึงได้สูงกว่าเหล็กเส้นหลายเท่าตัว

เหมาะสำหรับ: การเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก (Load Capacity) ให้กับเสาและคาน กรณีที่มีการเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานอาคาร หรือกรณีที่เหล็กเสริมเดิมชำรุดเสียหาย

3. งานซ่อมคอนกรีตหลุดร่อน (Structural Patching Repair)

การซ่อมแซมความเสียหายระดับลึก (Delamination) อย่างถูกวิธีตามขั้นตอนวิศวกรรม:

  1. สกัด: เปิดผิวคอนกรีตที่เสียหายออกจนถึงเนื้อคอนกรีตที่ดี
  2. เตรียมผิวเหล็ก: ขัดสนิมเหล็กเสริมออกให้หมดและทาน้ำยาแปลงสภาพสนิม (Rust Converter)
  3. ประสาน: ทาน้ำยาประสานคอนกรีต (Bonding Agent) เพื่อการยึดเกาะที่สมบูรณ์
  4. ฉาบซ่อม: ใช้วัสดุ Non-Shrink Repair Mortar กำลังอัดสูงฉาบปิดผิว เพื่อคืนกำลังให้กับโครงสร้าง

4. งานเสริมฐานรากและขยายหน้าตัด (Jacketing & Micro Pile)

โซลูชันสำหรับปัญหาการทรุดตัวหรือโครงสร้างวิกฤต ด้วยการเสริมเสาเข็ม Micro Pile เพื่อหยุดการทรุดตัว หรือใช้วิธี Concrete Jacketing (การเข้าแบบเทคอนกรีตหุ้มเสาเดิม) เพื่อขยายขนาดหน้าตัดและเพิ่มเหล็กเสริม ให้เสาสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้นอย่างมั่นคง

มาตรฐานการทำงานของ Grow Cons

01 สำรวจ (Inspect) เข้าตรวจสอบหน้างานจริงและเก็บข้อมูลความเสียหายด้วยเครื่องมือ NDT
02 ออกแบบ (Design) วิเคราะห์ผลและออกแบบวิธีการซ่อมแซมโดยวิศวกรโครงสร้างผู้เชี่ยวชาญ
03 ซ่อมแซม (Repair) ดำเนินงานโดยช่างฝีมือเทคนิค ควบคุมคุณภาพวัสดุและขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
04 ส่งมอบ (QC) ทดสอบผลหลังการซ่อมแซม (QC) จัดทำรายงานสรุปผล และส่งมอบงาน

ปรึกษาปัญหาโครงสร้างกับวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ

📞 โทรศัพท์: 089-516-4594

📧 อีเมล: Ridtirud@gmail.com

📱 Line ID: Ridbetta

ส่งรูปประเมินการซ่อม


    📸 ส่งรูปและข้อมูลประเมินเบื้องต้นฟรี


    (Structural Repair Assessment)


    บริการวิเคราะห์ปัญหาจากภาพถ่าย เพื่อเป็นแนวทางแก้ไขเบื้องต้น


    01. ข้อมูลความเสียหาย



    (หากมีอาการนอกเหนือจากด้านบน หรือต้องการอธิบายเพิ่ม)


    (ประเมินด้วยตัวเองว่าน่ากลัวแค่ไหน)

    1. เคยซ่อมแซมจุดนี้มาก่อนหรือไม่?

    2. บริเวณนี้มีการต่อเติมเพิ่มหรือไม่?



    02. สถานที่หน้างาน





    เพื่อให้ประเมินระยะทางและค่าเดินทางได้แม่นยำ (วิธีทำ: เปิดแผนที่ > จิ้มค้างที่จุดหน้างาน > กดแชร์ > คัดลอกลิงก์มาวาง)

    📸 อัปโหลดภาพถ่าย (จำเป็น)


    *กรุณาถ่ายให้ชัดเจนทั้ง ระยะไกล (ให้เห็นภาพรวม) และ ระยะใกล้ (ให้เห็นรอยแผลชัดๆ)





    03. ข้อมูลติดต่อกลับ






    🚨 ข้อตกลงการรับบริการ "ประเมินเบื้องต้นฟรี"


    การประเมินนี้วิเคราะห์จาก "ภาพถ่ายและข้อมูลที่ได้รับ" เท่านั้น เพื่อเป็นแนวทางเบื้องต้นในการวางแผนซ่อมแซม

    "ไม่ใช่การรับรองผลทางวิศวกรรม และไม่สามารถใช้อ้างอิงทางกฎหมายได้"

    (ควรมีการตรวจสอบเชิงลึกหน้างานจริง ก่อนเริ่มงานซ่อมแซม)